วันศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

เพศกับวัยรุ่น

1. พัฒนาการและการปรับตัวทางเพศของวัยรุ่น

     เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ทั้งเพศชายและเพศหญิงจะมีการเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายอย่างรวดเร็วมีน้ำหนักและส่วนสูงเพิ่มขึ้น สัดส่วนของอวัยวะในร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงไป เช่น แขนและขามีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว มือและเท้ามีอัตราการเจริญเติบโตเร็วกว่าอวัยวะอื่นๆจึงดูเหมือนว่ามือและเท้าใหญ่ผิดปกติ ตลอดจนมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตใจและอารมณ์ เช่น มีอารมณ์อ่อนไหวง่าย มีความเข้าใจและความรู้สึกนับถือตนเองมากขึ้น เป็นต้น

2. วัยรุ่นกับเจตคติทางเพศ


     2.1 ความหมายของเจตคติ หมายถึง สภาวะทางจิตใจหรือความพร้อมทางจิตใจของบุคคลที่จะปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องต่าง จะมีแนวโน้มสูงที่จะปฏิบัติต่อสิ่งนั้นตามแนวทางที่เขาเชื่อและรู้สึก
     2.2 ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อเจตคติทางเพศของวัยรุ่น
1) ครอบครัว เป็นสถาบันแรกที่ให้การอบรมเลี้ยงดู รวมถึงการสอนและปลูกฝังความรู้ซึ่งเป็นวิธีการที่ช่วยในการเปลี่ยนแปลงเจตคติทางเพศได้ โดยเฉพาะพ่อแม่ย่อมพร้อมที่จะใก้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ลูกเสมอ
2) เพื่อน เพื่อนจะมีอิทธิต่อเจตคติทางเพศของวัยรุ่นอย่างมากจึงควรร่วมกันแนะนำให้ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้องตามกรอบวัฒนธรรมไทย
3) วัฒนธรรม หมายถึง ผลรวมของความคิด ความเชื่อ ค่านิยม การรับรู้ และปฏิบัติที่เกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งซึ่งสังคมหนึ่งๆ ยึดถือสืบปฏิบัติมาเป็นเวลานาน
4) สื่อ มีอิทธิพลอย่างมากต่อการปลูกฝังเจตคติทางเพศ โดยเฉพาะในกลุ่มของวัยรุ่นที่อยากรู้อยากลองในสิ่งใหม่ๆตัวอย่างสื่อนี้ เช่น ป้ายโฆษณา โทรทัศน์ ภาพยนตร์ เป็นต้น

3. ปัญหาและผลกระทบจากการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน
     3.1 สถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์สถานการณ์ดังกล่าวที่อาจเสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน เช่น
1. เจตนาหรือยินยอมได้รับสิ่งกระตุ้นทางเพศ
2. ไปเที่ยวกับเพื่อนสองต่อสอง (ชายและหญิง)
3. การต้องเข้าไปอยู่ด้วยกันตามลำพังในสถานที่ลับตาคน
4. การดื่มสุราใช้ยากล่อมประสาท
5. เหตุการณ์พาไป
     3.2 ปัญหาและผลกระทบ ปัญหาสำคัญประการหนึ่งที่พบในกลุ่มวัยรุ่นไทย คือ การมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน อาจจะเกิดโดยที่วัยรุ่นไม่ได้คาดคิด ไม่ได้ตั้งใจ เป็นต้น

4. ทักษะชีวิตในการปกป้องกันตนเองเรื่องเพศ
     4.1 ทักษะการปฏิเสธ
   1) คุณลักษณะของการปฏิเสธ มีสาระสำคัญดังนี้
1. การปฏิบัติเป้นสิทธิและความต้องการส่วนบุคคล
2. การปฏิบัติเป็นการแสดงให้เห็นว่า บุคคลนั้นมีเจตคติหรือความต้องการต่อสถานการณ์ใดสถานการณ์หนึ่ง
   2) หลักการปฏิเสธ มีสาระสำคัญดังนี้
1. ควรปฏิบัติด้วยคำพูด น้ำเสียง เพื่อแสดงความตั้งใจอย่างชัดเจน
2. แสดงพฤติกรรมความรู้สึกควบคู่กับข้ออ้างประกอบเหตุผล
   3) การเลือกใช้ทักษะการปฏิเสธ
1. เมื่อไม่ชอบหรือไม่ต้องการร่วมกิจกรรมต่างๆซึ่งถ้าต้องทำแล้วจะรู้สึกอึดอัดใจข้องใจ
2. เมื่อรู้สึกลังเลใจต่อการเลือกสถานการณ์ใดสถารการณ์
     4.2 ทักษะการต่อรองเพื่อการประนีประนอม
   1) คุณลักษณะของการต่อรองเพื่อการประนีประนอม
1.1) เป็นการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ
1.2) เป็นการสร้างสัมพันธภาพที่ดี

5.ป้องกันตนเองจากปัญหาการมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน

ซึ่งมีวิธีป้องกันตนเองให้หลีกเลี่ยงจากสถานการณ์เสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์ มีดังนี้
1) การปิดกั้นโอกาส
2) การปิดกั้นตนเอง
3) การปิดกั้นอารมณ์
4) การใช้ทักษะชีวิตด้านการปฏิเสธ การต่อรอง และการตัดสินใจ
5) การใช้ถุงยางอนามัย
6) ความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว

6.การหลีกเลี่ยงและป้องกันตนเองจากพฤติกรรม ที่เสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์
     ผู้หญิง
   1. ไม่ยอมอยู่ในสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์

     ผู้ชาย
   1. หลีกเลี่ยงการดื่มสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สารเสพติดและการดูสื่อลามก เพราะจะทำให้ขาดสติ ละอาจกระทำในสิ่งที่ไม่เหมาะสม
   2. ไม่พาเพื่อนหญิงเข้าไปในสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์
   3. หากอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้และจำเป็นต้องมีเพศสัมพันธ์ ต้องใช้ถุงยางอนามัย เพื่อป้องกันโรคติดต่อทุกครั้ง
   4. มีความเป็นสุภาพบุรุษ ไม่ถูกเนื้อต้องตัวล่วงเกินผู้หญิงโดยไม่เกรงใจ
   5. ไม่ทำตัวเป็นคนเจ้าชู้ มีเพื่อนหญิงหลายคน

วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

การเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุ่น



1. การเจริญเติบโตและพัฒนาการของวัยรุ่น

     พัฒนาการของวัยรุ่นจะแบ่งเป็น 3 ช่วง คือ วัยแรกรุ่น (10-13ปี) วัยรุ่นตอนกลาง (14-16 ปี ) และวัยรุ่นตอนปลาย (17-19 ปี) ทั้งนี้เพื่อจะชี้ให้เห็นถึงลักษณะที่เด่นเป็นพิเศษของวัยรุ่นแต่ละช่วง ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในด้านความรู้สึกนึกคิด และความสัมพันธ์กับบิดามารดาโดยแบ่งดังนี้

     1. วัยแรกรุ่น (10-13ปี) เป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายทุกระบบ โดยจะมีความคิดหมกมุ่นกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย ซึ่งจะส่งผลกระทบไปยังจิตใจ ทำให้อารมณ์หงุดหงิดและแปรปรวนง่าย
     2. วัยรุ่นตอนกลาง(14-16 ปี ) เป็นช่วงที่วัยรุ่นจะยอมรับสภาพร่างกายที่มีการเปลี่ยนแปลงเป็นหนุ่มเป็นสาวได้แล้ว มีความคิดที่ลึกซึ้ง (abstract)จึงหันมาใฝ่หาอุดมการณ์และหาเอกลักษณ์ของตนเอง เพื่อความเป็นตัวของตัวเอง และพยายามเอาชนะความรู้สึกแบบเด็กๆ ที่ผูกพันและอยากจะพึ่งพาพ่อแม่
     3. วัยรุ่นตอนปลาย(17-19 ปี) เป็นเวลาของการฝึกฝนอาชีพ ตัดสินใจที่จะเลือกอาชีพที่เหมาะสม และเป็นช่วงเวลาที่จะมีความผูกพันแน่นแฟ้น (intimacy) กับเพื่อนต่างเพศ สภาพทางร่างกายเปลี่ยนแปลงเติบโตโดยสมบูรณ์เต็มที่ และบรรลุนิติภาวะในเชิงกฎหมาย

การเปลี่ยนแปลงในวัยรุ่น มี 4 ทางใหญ่ๆ คือ

การเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย

     1. ขนาดและความสูง เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น ผู้ชายจะมีอัตราเร็วในการเจริญเติบโตของไหล่มากที่สุด ทำให้วัยรุ่นผู้ชายจะมีไหล่กว้างกว่า ในขณะที่วัยรุ่นผู้หญิงมีอัตราการเจริญเติบโตของสะโพกมาก กว่าผู้ชาย นอกจากนี้การที่วัยนี้มีการเจริญเติบโตสูงใหญ่ได้รวดเร็ว โดยเฉพาะที่ คอ แขน ขา มากกว่าที่ลำตัว จะทำให้วัยรุ่นรู้สึกว่าตัวเองมีรูปร่างเก้งก้างน่ารำคาญ และการเจริญเติบโตหรือการขยายขนาดของร่างกายในแต่ละส่วน อาจเกิดขึ้นไม่พร้อมกัน หรือไม่เป็นไปตามขั้นตอน เช่น ร่างกายซีกซ้ายและซีกขวาเจริญเติบโตมีขนาดไม่เท่ากันในระยะแรกๆ ซึ่งเป็นเหตุทำให้เด็กตกอยู่ในความวิตกกังวลสูงได้ จึงควรให้ความมั่นใจกับวัยนี้
     2. ไขมันและกล้ามเนื้อ วัยรุ่นชายจะมีกำลังของกล้ามเนื้อมากกว่าวัยรุ่นผู้หญิง พละกำลังของกล้ามเนื้อจะแข็งแรงขึ้น หลังจากนั้นวัยรุ่นชายจะมีไขมันใต้ผิวหนังบางลง พร้อมๆกับมีกล้ามเนื้อเพิ่มมากขึ้นและแข็งแรงขึ้น ซึ่งจะทำให้วัยรุ่นชายดูผอมลงโดยเฉพาะที่ขา น่อง และแขน สำหรับวัยรุ่นหญิงถึงแม้ว่าจะมีการเพิ่มขึ้นของกล้ามเนื้อ แต่ขณะเดียวกันจะมีการสะสมของไขมันใต้ผิวหนังเพิ่มขึ้นอีกโดยที่น้ำหนักจะเพิ่มได้ถึงร้อยละ25 ของน้ำหนัก โดยเฉพาะไขมันที่สะสมที่เต้านมและสะโพกประมาณร้อยละ 50 ของวัยรุ่นหญิงจะรู้สึกไม่พอใจในรูปลักษณ์ของตน และมักคิดว่าตัวเอง "อ้วน" เกินไป
     3. โครงสร้างใบหน้า ช่วงนี้กระดูกของจมูกจะโตขึ้น ทำให้ดั้งจมูกเป็นสันขึ้น กระดูกขากรรไกลบนและ ขากรรไกรล่างเติบโตเร็วมากในระยะนี้ เช่นเดียวกับกล่องเสียง ลำคอ และกระดูกอัยลอยด์ และพบว่าในวัยรุ่นชายจะเจริญเติบโตเร็วกว่าวัยรุ่นหญิงชัดเจน เป็นเหตุให้วัยรุ่นชายเสียงแตก
     4. การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน ทั้งฮอร์โมนการเติบโต (growth hormone) และฮอร์โมนจาก ต่อมไทรอยด์มีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโต รวมทั้งฮอร์โมนทางเพศ นอกจากระดับฮอร์โมนจะมีผลโดยตรงต่อการเจริญเติบโตทางร่างกาย และอวัยวะเพศในวัยรุ่นแล้ว ตัวของมันเองยังส่งผลถึงความรู้สึกทางอารมณ์และจิตใจ ปฏิกิริยาการเรียนรู้ ฯลฯ ในวัยรุ่นอีกด้วย วัยรุ่นที่จะผ่านช่วงวิกฤตนี้ได้ นอกจากจะต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพร่างกายที่เปลี่ยนไปแล้ว ยังต้องเข้าใจและควบคุมอารมณ์ความรู้สึกที่พลุ่งพล่านขึ้น จากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนต่างๆ อีกด้วยโดยเฉพาะต่อมไขมันใต้ผิวหนัง และต่อมเหงื่อจะทำหน้าที่เพิ่มมากขึ้น เป็นสาเหตุทำให้เกิดปัญหาเรื่อง "สิว" และ "กลิ่นตัว" แต่เนื่องจากวัยนี้จะให้ความสนใจเกี่ยวกับร่างกายที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีความระแวดระวังตัวเองมาก จึงทำให้วัยรุ่นพยายามที่จะรักษา "สิว" อย่างเอาเป็นเอาตาย ทั้งๆที่ "สิว" จะเป็นปัญหาในช่วงวัยนี้แค่ระยะสั้นๆ เท่านั้น
     5. การเปลี่ยนแปลงของอวัยวะเพศ วัยรุ่นหญิงมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วงระยะ 1 ปี ก่อนที่ จะมีประจำเดือน โดยเฉพาะการเจริญเติบโตของเต้านม ซึ่งเริ่มมีการขยายในขนาดเมื่ออายุประมาณ 8-13ปี และจะใช้เวลา 2-2 ปีครึ่ง จึงจะเจริญเติบโตเต็มที่ ในช่วงอายุ 11-13 ปี วัยรุ่นหญิงส่วนใหญ่ (ร้อยละ 80) จะมีรูปร่างเป็นสาวเต็มตัว ดังนั้น ในชั้นประถมตอนปลายหรือมัธยมต้น จะเห็นว่าวัยรุ่นสาวจะมีรูปร่างสูงใหญ่เป็นสาวน้อยแรกรุ่น ในขณะที่พวกผู้ชายยังดูเป็นเด็กชายตัวเล็กๆ ทั้งๆ ที่เด็กผู้หญิงเคยตัวเล็กกว่าเด็กผู้ชายมาตลอด ทำให้เด็กสับสนและเป็นกังวลกับสภาพร่างกายได้
     การมีรอบเดือนครั้งแรก จะมีเมื่ออายุประมาณ 12-13 ปี การที่มีประจำเดือนแสดงให้เห็นว่า มดลูกและช่องคลอดได้เจริญเติบโตเต็มที่ แต่ในระยะ 1-2 ปี แรกของการมีประจำเดือน มักจะเป็นการมีประจำเดือนโดยไม่มีไข่ตก รอบเดือนในช่วงปีแรกจะมาไม่สม่ำเสมอ หรือขาดหายไปได้ และเมื่อมีประจำเดือนแล้ว พบว่าเด็กผู้หญิงยังสูงต่อไปอีกเล็กน้อยไปได้อีกระยะหนึ่ง และจะเติบโตเต็มที่เมื่อประมาณอายุ 15-17 ปี การมีรอบเดือนครั้งแรกอาจทำให้รู้สึกพอใจและภูมิใจที่เป็นผู้หญิงเต็มตัว หรืออาจจะรู้สึกในทางลบ คือ หวั่นไหว หวาดหวั่นหรือตกใจได้เช่นกัน โดยทั่วไปการมีรอบเดือนครั้งแรกจะเพิ่มความใกล้ชิดระหว่างวัยรุ่นหญิงกับมารดาถ้าเคยไว้วางใจกันมาก่อน แต่วัยรุ่นหญิงบางคนจะปกปิดไม่กล้าบอกใคร เพราะเข้าใจไปว่าอวัยวะเพศฉีกขาด หรือเป็นแผลจากการสำรวจตัวของวัยรุ่นเอง ในช่วงนี้วัยรุ่นจะกังวลหมกมุ่นกับรูปร่างหน้าตา และมักใช้เวลาอยู่หน้ากระจกนานๆ เพื่อสำรวจรูปร่าง ส่วนเว้าส่วนโค้งหรือใช้กระจกส่งดูบริเวณอวัยวะเพศด้วยความอยากรู้ อยากเห็น ซึ่งก็ไม่ใช่พฤติกรรมที่ผิดปกติแต่อย่างใด
     สำหรับวัยรุ่นชาย ซึ่งจะเริ่มมีการเจริญเติบโตของลูกอัณฑะ เมื่อเข้าสู่ช่วงอายุ 10-13 ปี ครึ่ง และจะใช้เวลานาน 2 - 4 ปี กว่าที่จะเติบโตและทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ในขณะที่รูปร่างภายนอกจะมีการเจริญเติบโตเปลี่ยนแปลงช้ากว่าวัยรุ่นหญิง ประมาณ 2 ปี คือ ประมาณอายุ 12-14 ปี ในขณะที่เพื่อนผู้หญิงที่เคยตัวเล็กกว่า กลับเจริญเติบโตแซงหน้า ทำให้วัยรุ่นชายมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับรูปร่าง ความสูง ได้มาก เมื่อเติบโตเข้าสู่วัยรุ่นตอนกลางช่วงวัย14-16 ปี ลูกอัณฑะเจริญเติบโตและทำงานได้เต็มที่จึงสามารถพบภาวะฝันเปียกได้ บางคนเข้าใจผิดคิดว่าฝันเปียกเกิดจากการสำรวจความใคร่ด้วยตัวเอง หรือเป็นความผิดอย่างแรง หรือทำให้สภาพจิตผิดปกติ หรือบางรายวิตกกังวลไปกับจินตนาการหรือความฝัน เพราะบางครั้งจะเป็นความคิด ความฝันเกี่ยวข้องกับคนในเพศเดียวกัน ซึ่งก็ไม่ถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดปกติอย่างใด

การเปลี่ยนแปลงทางด้านอารมณ์

     1.วิตกกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย
     2.วิตกกังกลกับอารมณ์ทางเพศที่สูงขึ้น
     3.วิตกกังวลกลัวการเป็นผู้ใหญ่
     4.วิตกกังวลในความงดงามของร่างกาย
     5.ต้องการความรักความห่วงใย
     6.ต้องการเป็นอิสระทำอะไรด้วยตนเอง
     7.ต้องการเป็นตัวของตัวเอง
     8.ต้องการความถูกต้อง ยุคิธรรม
     9.ต้องการความตื่นเต้นท้าทาย ความแปลกใหม่
     10.ความอยากรู้ อยากเห็น อยากลองสูง


การเปลี่ยนแปลทางด้านสังคม

     ช่วงวัยนี้จำทำตัวออกห่างจากทางบ้าน ไม่ค่อยคลุกคลีกับคนในบ้านสักเท่าไหร่ มักจะใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับเพื่อนๆและทำกิจกรรมนอกบ้าน


การเปลี่ยนแปลงทางด้านสติปัญญา

     วัยนี้สติปัญญาจะพัฒนาสูงขึ้นจนมีความคิดเป็นรูปธรรม มีความสามารถในการคิด วิเคราะห์ สิ่งต่างๆได้มากขึ้น จนเมื่อพ้นช่วงวันรุ่นแล้วจะมีความสามารถทางสติปัญญาเหมือนผูั้ใหญ่

เพศกับวัยรุ่น

1. พัฒนาการและการปรับตัวทางเพศของวัยรุ่น      เมื่อเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ทั้งเพศชายและเพศหญิงจะมีการเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายอย่างรวดเร็วมีน...